ธุรกิจชา ในประเทศไทย

ชาเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทย ที่ภาครัฐส่งเสริมให้มีการปลูกเพื่อทดแทนพืชเสพติดในแหล่งผลิตทางภาคเหนือโดยสามารถทำรายได้มากกว่าปีละประมาณ 500 ล้านบาท ในปี 2013 ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกชา 21,156 เฮกตาร์ ปริมาณใบชาสดคิดเป็น 77,090 ตัน มีปริมาณผลผลิตเฉลี่ย 3.64 ตันต่อเฮกตาร์ ติดอันดับผู้ผลิตชาอันดับที่ 14 ของโลกโดย พื้นที่เพาะปลูกชาจะอยู่ในภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง แพร่ และแม่ฮ่องสอน โดย
ปลูกชาอัสสัมร้อยละ 84 และชาจีนร้อยละ 16 ปริมาณการบริโภคชาในประเทศไทยคิดเป็น 10 กรัมต่อคนต่อปี ประเทศไทยมีการนำเข้าชาจากประเทศต่างๆ ได้แก่ อินโดนีเซีย จีน ญี่ปุ่น ศรีลังกา และเมียนมาร์

แม้ว่าเราจะเห็นเว็บไซต์แฟนเพจต่างก็โปรโมทเรื่องการท่องเที่ยวไร่ชากันเยอะมากขึ้น รวมทั้งแฟรนไชส์ชาจะได้รับกระแสตอบรับจากนักดื่มอย่างมาก คุณเชื่อไหมว่า “ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 46 ในการดื่มชา” โดยประเทศที่ดื่มชามากที่สุดในโลกคือ ตุรกี ไอร์แลนด์ ตามด้วยอังกฤษ เราคงนึกภาพไม่ออกเลยว่าประเทศเหล่านั้นจะดื่มชามากขนาดไหน

อธิบดีกรมเจราการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2560 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ชาเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากแคนาดา สหรัฐอเมริกา และจีน โดยส่งออกเป็นปริมาณ 10,775 ตัน คิดเป็นมูลค่า 958 ล้านบาท ไปยังพม่า ร้อยละ 46 ไปยังงสหรัฐอเมริการ้อยละ 27 และลาว ร้อยละ 7

ชาไทย ที่คนไทยนิยม

ชาเขียว คือเครื่องดื่มที่คนไทยนิยมที่สุด โดยครองส่วนแบ่งตลาด 2 บริษัทใหญ่ รวมกันกว่า 80% ของมูลค่ารวมทั้งตลาด 16,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยระบุว่า ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชา โดยมีหลายปัจจัยในการเลือก เช่น ประเภทของน้ำชา ลักษณะของร้านน้ำชา ราคาน้ำชาต่อแก้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะประชากรศาสตร์ด้วย

แฟรนไชส์ชา ได้รับความนิยมมากว่า 10 ปี โดยมีการเพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบันกว่า 20 แบรนด์ ซึ่งการซื้อแฟรนไชส์ชาจะทำให้คุณสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจตัวเองด้วยเงินลงทุนหลักหมื่น และเริ่มขายได้ทันที โดยเจ้าของแฟรนไชส์สอนวิธีการชง และยังจำหน่ายวัตถุดิบและอุปกรณ์การชงให้ด้วย เรียกว่าไม่ต้องยุ่งยากไปหาของ หรือฝึกสูตรให้เสียเวลา แถมยังมีกลุ่มลูกค้าพ่วงมาให้ด้วย เพราะว่าเจ้าของแบรนด์มีการทำการตลาด การโฆษณา ประชาสัมพันธ์แบรนด์ไว้แล้ว

จากประวัติการนิยมดื่มชาที่ผ่านมา รวมทั้งแนวโน้มการดื่มชาไทยในประเทศไทย ยังคงได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะชาเขียว รวมทั้ง กลุ่มลูกค้าของ “แฟรนไชส์ชอบชา” เอง ก็ยังคงให้ความไว้วางใจในการติดตามอุดหนุนแบรนด์ “ชอบชา” มาโดยตลอด ปีนี้ทางทีมการตลาดของชอบชา ยังคงมองหาทำเลทอง และรอการติดต่อจากท่านที่สนใจจะมาร่วมเป็น”ครอบครัวชอบชา” อยู่อีกหลายเขตหลายจังหวัดเลยนะคะ

เครดิต ที่มา
https://bit.ly/2YFoaTV
https://bit.ly/2B0zT3l
https://bit.ly/2WC1RN0
https://bit.ly/2TVeBxj
https://bit.ly/2FN0nKz
https://bit.ly/2r09yhW